วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Verb to do



Do และ Does มีหลักการใช้คือ ถ้าเป็นกริยาสำคัญหรือกริยาแท้ในประโยคจะมีความหมายว่า ทำ

ต้องแยกใช้ไปตามประธานของประโยคให้ถูก เช่น

He does his homework.

They do their homework.
เป็นกริยาช่วยในประโยคคำถามและปฏิเสธที่มีกริยาแท้อยู่แล้วในประโยค และประโยคนั้นไม่มี Verb to be ( is am are ) .


ในบริบทของประโยคเช่นนี้ do , does จะไม่มีความหมาย เป็นเพียงตัวช่วย เช่น
He does not have any sisters.
We do not buy a big car.




Remark : Verb to be ไม่อยู่ เอา Verb to do เข้ามาช่วย
do not ใช้รูปย่อเป็น don’t / does not ใช้รูปย่อเป็น doesn’t




แยกใช้ไปตามประธานของประโยคดังนี้


1. ประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 ( He , She , It ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียว ที่ถูกกล่าวถึง ) ใช้ Does.


2. ประธานเป็นไม่ใช่เอกพจ น์บุรุษที่ 3 ( I , You , We , They ชื่อคนหลายคน สัตว์หลายตัว สิ่งของหลายอย่างที่ถูกกล่าวถึง ) ใช้ Do



การใช้ Verb to do ในประโยคปฏิเสธ

มีหลักการดังนี้
1. Verb to do เป็นเพียงกริยาช่วย ( Helping Verb ) ไม่ใช่กริยาแท้
2. กริยาแท้ของประโยคต้องใช้รูปเดิม ( Base form ) จะไม่มีการเติมหรือเปลี่ยนไปเป็นช่องใดทั้งสิ้น นะครับ
ประโยคบอกเล่า He likes cartoon.
ประโยคปฏิเสธ He doesn’t like cartoon.
ประโยคบอกเล่า They play football. ประโยคปฏิเสธ They don’t play football.





การใช้ Verb to do ในประโยคคำถาม มีดังนี้
1. Yes / No Questions
1. ใช้ Verb to do วางหน้าประโยค ตามด้วยประธานของประโยคและกริยาแท้ของประโยควางเรียง ต่อมา ตัวอย่างเช่น
กริยาแท้ใช้ Base form ( รูปเดิมที่ไม่ต้องเติมหรือผัน )
ประโยคบอกเล่า He likes cartoon.
ประโยคคำถาม Does he like cartoon ?
ประโยคบอกเล่า They play football.
ประโยคคำถาม Do they play football. ?
2. Wh. Questions
1. ใช้ Verb to do วางข้างหลัง Wh. และหน้าประธานของประโยค ตามด้วย
กริยาแท้ของประโยควางเรียงต่อมา ตัวอย่างเช่น
ประโยคคำถาม What does he want ?
ประโยคคำตอบ He wants a pen.
ประโยคคำถาม When do you have lunch ?

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กำลังใจดีๆ ให้ตัวเอง


.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า

แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง

และคนฉลาดที่สุด ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..





.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า

การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต
ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..




.. คนที่ไม่เคยหิว

ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม
ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว

ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..




.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง

อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง

อาจไม่ใช่เหตุผลของคน อีกคนนึง





ถ้าคุณไม่ลองก้าว

คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า

ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร

ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น

ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ

มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..





.. คนเรา ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง

แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น ที่ได้ทำ ..
หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย

หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า


คน ไม่ใช่เทวดา







การที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคนไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม


สิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอก็คือ“คน” เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ อยู่ในนั้น




อย่าตั้งใจกับคน 1 คนมากเกินไป > > > > เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว



อย่าคาดหวังกับ คน 1 คนมากเกินไป > > > >เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น



อย่าให้เวลากับคน 1 คนมากเกินไป > > > > เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาของความเป็นส่วนตัว. . คนเดียว



อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคน 1 คนมากเกินไป > > > เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือความเป็นตัวของตัวเอง



อย่าควบคุมชีวิตคน 1 คนมากเกินไป > > เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด



อย่าบีบบังคับคน 1 คนมากไปกว่านี้ > > > >เพราะถ้าคนๆนั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้ คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที




เธอ. . . ลองมองดูฉันดีๆ ฉันมีลมหายใจไม่ใช่ภาพวาด


ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา


ฉันเองก็เป็น “คน”


เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้าน


. . . เช่นกัน...อยากรู้จักใครสักคน


ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง.



วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จดหมายถึงพ่อ

กราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ



คุณพ่อคะ คุณแม่คะ

เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือเปล่าคะ

ผ่านมาเกือบครึ่งปีตั้งแต่หนูเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ

หนูไม่ได้ติดต่อคุณพ่อคุณแม่เลย

หนูอยู่ที่นี่สบายดี...พี่มากเค้ารักหนูและดูแลหนูเป็นอย่างดี

สงสัยหรือคะว่าพี่มากคือใคร

จำได้มั้ยคะวันที่หนูจากคุณพ่อคุณแม่ที่สถานีรถทัวร์ เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ

รถทัวร์ที่หนูนั่งมาเกิดอุบัติเหตุใกล้ปั๊มน้ำมันแห่ งหนึ่งในกรุงเทพฯ

หลังเกิดอุบัติเหตุ มีคนมาล้อมหน้าล้อมหลังหนูเต็มไปหมดเลยค่ะ

และมีคนขโมยกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าตังค์ไป

พี่มากเค้าเป็นเด็กปั๊มที่นั่นค่ะ

พอรถชนกันเค้าก็เข้าไปช่วยปฐมพยาบาล

เราเจอกันที่นั่นค่ะคุณพ่อเค้าเป็นคนดีมาก

เราพูดคุยกันซักครู่ใหญ่

รู้สึกถูกคอกันมากคุณแม่ขา

นี่แหละมั้งคะที่เรียกว่ารักแรกพบ

พอเค้ารู้ว่าหนูยังไม่มีที่พักไม่มีญาติในกรุงเทพฯ

และยังไม่รู้จะไปพักที่ไหนแถมยังบาดเจ็บจากอุบัติเหต

ุ พี่มากเลยชวนหนูไปอยู่ด้วยกันที่หอพักใกล้ๆ ปั๊มน้ำมันนั้น

ด้วยความตกใจและไม่มีที่พึ่งทำให้หนูรับปากพี่เค้าไป โดยไม่รู้ตัว

แต่ว่าคุณพ่อคะพี่มากเป็นคนดีมากค่ะ

เค้าไม่เคยแตะต้องตัวหนูเลย

อยู่ด้วยกันประมาณ 2 เดือน พี่มากจึงขอหนูแต่งงานค่ะ

หนูขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณพ่อคุณแม่ก่อน

แต่ด้วยความใกล้ชิดทำให้หนูไม่สามารถยั้งใจไว้ได้

จึงได้บอกตกลงพี่มากเค้าไป อภัยให้เรานะคะ

นึกว่าเห็นแก่เด็กตาดำๆ ที่จะเกิดมาดูโลกนี้อีกไม่นานเท่าไร

หนูกำลังมีหลานให้คุณแม่ค่ะ

คาดว่าการเรียนเทอมแรกนี้คงต้องพักไว้ก่อน

หรือไม่ก็ต้องเลิกเรียนไปเลย

พราะว่าหนูคงต้องช่วยพี่มากหาเงินก่อนที่ท้องจะใหญ่ไปกว่านี้

พอลูกคลอดแล้วก็คงต้องอยู่เลี้ยงลูกอีก

คงไปเรียนไม่ได้ เงินทองก็หมดไปทุกวันๆ

แต่หนูก็ยังสุขใจดีค่ะ ไม่ต้องห่วง

คุณพ่อคุณแม่อย่าโกรธหนูนะคะ

มันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ

แต่หนูคิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะให้อภัย

เมื่อคลอดลูกแล้วหนูจะพาพี่มากและลูกไปกราบเท้าคุณพ่ อคุณแม่ที่บ้านนะคะ

ที่หนูเขียนจดหมายมาหาคุณพ่อคุณแม่วันนี้

มีข่าวดีและข่าวร้ายมาบอกค่ะ

ข่าวดีก็คือที่หนูเล่ามาทั้งหมดนั่น เป็นเรื่องไม่จริงค่ะ

หนูล้อเล่นค่ะ!!



ส่วนข่าวร้ายก็คือเทอมแรกหนูสอบได้ F 3 วิชาD 2 วิชา และ C อีก 1 วิชา

เห็นมั้ยคะ มันไม่ได้ร้ายแรงไปกว่าที่หนูเล่ามาตั้งแต่ต้นหรอก

ดีกว่าซะอีกจริงมั้ยคะ ฉะนั้นอย่าโกรธหนูนะคะ

ด้วยรักและเคารพอย่างสูง หนูดาที่รักของคุณพ่อคุณแม่



ป.ล.เงินที่คุณพ่อให้มาหมดแล้วล่ะค่ะ



ถ้าคุณพ่อจะเห็นใจช่วยโอนเงินเข้าให้หนูด้วยนะคะ"





จดหมายตอบกลับ









สวัสดีจ้ะลูกรักของพ่อ



ที่ลูกเล่ามาทั้งหมดตั้งแต่แรกนั่นน่ะ

ทำเอาพ่อใจไม่ดีไปเลยเชียว

พ่ออ่านจดหมายลูกได้แค่ครึ่งเดียวก็โกรธจัดจนไม่ได้อ ่านต่อ

เพราะว่าบันดาลโทสะทำให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันยกใหญ่

แม่เค้าไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเพราะเค้ารักลูกมาก

คิดว่าลูกคงจะไม่ทำให้เค้าผิดหวัง

แต่พ่อก็โมโหซะจนลืมตัวทะเลาะกับแม่อย่างแรง

ลูกก็รู้ว่าแม่ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่

พ่อผิดเองที่ไม่รู้จักคิดรู้จักยั้งความโกรธ

เราทะเลาะกันแรงมาก จนแม่เค้า......ล้มลงหัวใจวาย

ยาที่เคยมีอยู่ในบ้านก็หาไม่เจอ

พ่อพาแม่แกส่งโรงพยาบาลก็สายไปซะแล้ว

พ่อกำลังเศร้ามากคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

มันเกิดจากพ่อไม่อ่านจดหมายของแกให้จบซะก่อน

แม่แก็เลยมีอันเป็นไป



อ้อ พ่อมีข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับลูก



ข่าวดีคือแม่แกยังอยู่สบายดี ไม่มีอะไร

พ่อล้อเล่น

ข่าวร้ายคือแม่เค้าเสียไพ่เลยไม่มีเงินส่งไปให้ลูก

แต่มันก็ยังดีกว่าที่แม่เค้าจะเป็นอะไรไปใช่ไหมล่ะ

หวังว่าลูกคงอ่านจดหมายจนจบนะ

ไม่ใช่ตกใจตะลีตะเหลือกไปฆ่าตัวตายซะก่อน



รักลูกมากจ้ะ



พ่อ

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

14ที่สุดในชีวิต


1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง


2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี


3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง


4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา


5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง


6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกตัวเอง


7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา คือ การถดถอยของตัวเอง


8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอุตสาหะวิริยะ


9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา คือ ความสิ้นหวัง


10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์


11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ


12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา การให้อภัยและความเมตตา


13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล


14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน